เครื่องปั่นไฟ มีไว้ติดบ้านอุ่นใจกว่าอย่างไร
เชื่อว่าหลายๆคนไม่มากก็น้อยต้องเคยประสบพบเจอกับเหตุการณ์ไฟฟ้าดับกันไม่มากก็น้อยในแต่ละปี เครื่องปั่นไฟหรือเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าแบบพกพาจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้สำหรับบ้านที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าตลอดเวลา เพราะแสงสว่างหรืออุปกรณ์บางชนิดจำเป็นต้องมีไฟเลี้ยงตลอด มันดีใช่ไหมล่ะที่เวลาไฟดับแล้วเรามีไฟฟ้าใช้ได้เลย และยิ่งถ้าคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่ที่มีไฟดับมากกว่าปีละสิบครั้ง เครื่องปั่นไฟนั่นยิ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากเลยทีเดียว และนี่คือเหตุผลง่ายๆว่าทำไมต้องมีเครื่องปั่นไฟใช้ในบ้าน 1. เพื่อสำรองพลังงานไฟฟ้าในยามฉุกเฉิน2. เพื่อใช้แทนแหล่งจ่ายไฟในกรณีบ้านมีพื้นที่สวน ไร่ หรือ พื้นที่ที่ไม่มีสายไฟเข้าถึง 3. เพื่อใช้กับระบบแสงสว่างและความปลอดภัย4. เพื่อใช้กับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องมีเครื่องช่วยหายใจหรืออุปกรณ์อื่นๆที่ใช้พลังงานไฟฟ้า5. เพื่อใช้ในงานช่างและงานDIYประจำบ้าน6. เพื่อใช้สำหรับบ้านสวนและบ้านที่ทำเกษตร7. เพื่อใช้สำหรับอุปกรณ์พิเศษเพื่อสันทนาการเช่นการจัดงานเอ้าดอร์ต่างๆ แล้วต้องใช้ขนาดอย่างไรบ้างล่ะจึงจะเหมาะสมกับบ้านเราการเลือกเครื่องปั่นไฟนั้นไม่ยากเลย โดยให้คำนวนจาก load ของเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักๆที่เราต้องการใช้โดยทั่วไปแล้วจะมีตั้งแต่ขนาด 2kw ไปจนถึง 10kw เลยทีเดียว และโดยส่วนมากก็จะใช้ 2-5 kw นั่นเองซึ่งจะมีราคาและขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไปใช้งานได้สะดวก และคุณสมบัติพิเศษสำหรับเครื่องไปไฟในบ้านที่แนะนำก็คือหากได้ระบบ ATS จะถือว่าดีมากๆ ซึ่งมันเป็นระบบที่จะสวิตซ์อัตโนมัติให้เวลาไฟดับเครื่องปั่นไฟทำงานได้ โดยให้ต่อไว้กับแผงเบรกเกอร์เลย หรือจะใช้เครื่องปั่นไฟแบบปกติที่ไม่มีฟังก์ชั่นนี้ก็ได้ เพราะไม่จำเป็นต้องต่อเครื่องแช่ไว้ สามารถยกไปไหนมาไหนได้สะดวก ยกตัวอย่างเครื่องปั่นไฟภายในบ้านที่นิยมและแนะนำ